ความเชื่อ แมลง กระดิ่งเงินกระดิ่งทอง ให้โชคลาภ ความมั่งคั่งรํ่ารวย จริงหรือ?

ความเชื่อ แมลง กระดิ่งเงินกระดิ่งทอง ให้โชคลาภ ความมั่งคั่งรํ่ารวย จริงหรือ?

สมัยโบราณชาวบ้านมี ความเชื่อ ว่าในสัตว์บางประเภทนั้น เป็นพระโพธิสัตว์ไม่องใดก็องค์หนึ่งได้จุติลงมาเกิดเพื่อสร้างบารมีในชาตินั้น คนในครั้งโบราณล้วนเชื่อว่า สัตว์ต่างๆเหล่านี้เป็นตัวนําโชคลาภ นําความสุข ความเจริญมาสู่ตนได้ ถ้ารู้จักวิธีบูชาที่ถูกต้อง

แมลง กระดิ่งเงินกระดิ่งทอง แมลงแห่งโชคลาภและความมั่งคั่งรํ่ารวย หากผู้มีอาชีพทํามาค้าขายเลี้ยงไว้แล้วจะพบแต่ความรํ่ารวย รวย รวย หากผู้อ่านเคยผ่านตาได้พบเห็นกับโถแก้วใสที่มีแมลงตัวเล็กๆคล้ายดวงปีกแข็งมีสีดํามัน ขนาดลําตัวเท่าหัวไม้ขีดไฟ ที่มีจํานวนมากอยู่เต็มโถ กําลังกัดกินข้าวตอกอยู่ในโถแก้ว ซึ่งถูกวางไว้ในร้านค้าต่างๆ จนเกิดคําถามขึ้นมาว่าแมลงเหล่านี้คืออะไร และทําไมผู้ที่ทํามาค้าขายจึงนิยมเลี้ยงแมลงชนิดนี้ไว้ในร้าน

โดยตาม ความเชื่อ ของคนไทยที่มีมาแต่โบราณซึ่งมีความเชื่อที่ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนานว่า แมลงชนิดนี้เป็นแมลงที่ให้คุณและนําโชคโดยเฉพาะแก่พ่อค้าแม่ขาย การเลี้ยงไว้ในโถแก้วอย่างดีนี้ จึงเป็นการคือเคล็ดเพื่อใช้กวักเงินกวักทอง ไม่ต่างจากการบูชานางกวัก หรือรกแมว ที่มีพลานุภาพมหัศจรรย์ที่สามารถเรียกลูกค้า ทํามาค้าคล่องและสร้างความรํ่ารวยให้แก่คนมากมาย

แมลงชนิดนี้มีวิธีการเลี้ยงที่ง่ายแสนง่าย เพราะมันจะกินข้าวตอกเพียงอย่างเดียว ส่วนข้าว-นํ้า หรืออาหารอื่นๆนั้นไม่จําเป็น ขณะเดียวกันก็จะขยายและเพาะพันธุ์เพิ่มจํานวนมากขึ้น อันเปรียบเสมือนการเพิ่มขึ้นของโภคทรัพย์และความรํ่ารวย

ทั้งนี้อายุขัยโดยเฉลี่ยของแมลง กระดิ่งเงินกระดิ่งทอง อยู่ที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ โดยการวางโถแก้วใสก็สามารถวางได้ภายในบริเวณของบ้าน หรือตรงส่วนของร้านที่ร่มเย็น แดดไม่จัด พร้อมกับพยายามเติมข้าวตอกอย่างให้พร่อง ก็ถือเป็นอันใช้ได้ เพราะหากข้าวตอกขาดปริมาณที่กะเกณฑ์ว่าเห็นแล้วน้อยเกินไปก็จะทําให้การงานการเงิน การทํามาค้าขายไม่ค่อยคล่องตัว การถือเคล็ดเลี้ยงแมลงชนิดนี้ จึงเป็นเสมือนการใช้ความเชื่อในทางจิตวิทยามาสร้างความมั่นใจ และเป็นกําลังใจในการประกอบอาชีพ ควบคู่ไปกับความมุ่งมั่น ขยัน อดทน และความลึกลับของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แล้วคุณละครับมีความคิดเห็นอย่างไรกับความเชื่อนี้ ซึ่งหากไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เพราะทาง Horoscope.Mthai.com ต้องการนำเสนอเป็นความรู้เท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดเป็นความเชื่อหรืองมงายแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก kradingtong.blogspot.com