ศาลพระภูมิ ตามแบบ ฮวงจุ้ย

Home / ดูดวง, ฮวงจุ้ย / ศาลพระภูมิ ตามแบบ ฮวงจุ้ย

ศาลพระภูมิ ตามแบบ ฮวงจุ้ย

ศาลพระภูมิ

ตามคติไทย มีความเชื่อดั้งเดิม พระภูมิ หรือ ภูมิเทวดา ผู้มีหน้าที่รักษาอาณาเขตที่ดิน ซึ่งเจ้าของที่ได้อัญเชิญมาสิงสถิต ณ ศาลซึ่งได้จัดสร้างไว้

ตำนานเล่าว่า ท้าวทศราชผู้ครองกรุงพลี มีโอรส 9 พระองค์ ล้วนปรีชาสามารถ จึงถูกส่งไปรักษาถิ่นต่างๆ เป็นต้นว่าเคหสถาน ทวารเมือง ป้อมค่าย บันได คอกสัตว์ ยุ้งฉางข้าว เรือนหอ ไร่นา ป่าเขา ห้วยหนอง คลอง บึง แม่น้ำ โอรสที่อยู่ประจำเคหสถานคือพระภูมิเจ้าที่มีนามว่า “พระชัยมงคล” มือซ้ายถือพระขรรค์ มือขวาถือสมุด มีคนรับใช้ 3 คน คือนายจันทิศ นายจันถี และจ่าสพพระเชิงเรือน คอยรับใช้อยู่หน้าศาล

ศาลพระภูมิ การตั้งศาล ต่างๆ มีหลักการตั้งอยู่ 2 แบบ คือ
1.แบบไทยโบราณ ยึดทิศเป็นสำคัญ (แบบนี้ไม่ยากมากเท่าไหร่)
2.แบบผสมหลักฮวงจุ้ย ยึดทิศ ยึดตำแหน่งบารมี เป็นสำคัญ (แบบที่2นี้ จะละเอียดมาก  เพราะต้องคำนวนวันเดือนปีเกิด ของผู้อยู่อาศัย และปีที่ย้ายเข้ามาอยู่ เพื่อเอามาหาตำแหน่งที่ส่งเสริมดวงชะตา)

ศาลพระภูมิ

ศาลพระภูมิ และเจ้าที่ มีลักษณ์ดังนี้ พระภูมิ ตั้งอยู่บนเสาเดี่ยว ตัวศาลตั้งอยู่ระดับสายตา ศาลเจ้าที่มีเสา4 ต้น ต่ำกว่าศาลพระภูมิ

1.แบบไทยโบราณ ยึดทิศเป็นสำคัญ (แบบนี้ไม่ยากมากเท่าไหร่)ความเชื่อของคนไทย : ศาลพระภูมิ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษา
การตั้ง ศาลพระภูมิ มีข้องควรระวังดังนี้
1 อย่าให้เงาบ้านทับ ศาลพระภูมิ หรือเงาศาลพระภูมิไปทับบ้าน
มีความเชื่อกันว่าจะทำให้บ้านถูกวิญญาณเบียดเบียน คล้ายๆ หลักฮวงจุ้ยของจีนที่ไม่ให้มีสระน้ำ ติดกับบ้าน เมื่อดวงอาทิตย์ส่งอลงน้ำจะสะท้อนแสงจากผิวน้ำเข้าไปในบ้าน จะทำให้ชีวิตร้อนลุ่มมีแต่ปัญหา
2 อย่าให้หน้าของ ศาลพระภูมิ ตรงกับตัวบ้าน จะทำให้เกิดความวิบัติ ตรงกับของจีนเหมือนกันแต่ของจีนมักไม่ให้มีเสาไฟฟ้า และต้นไม้ใหญ่ตรงกับหน้าบ้านถือว่าเป็นธูปก้านเดียวเป็นสิ่งอัปมงคลเพราะธูปก้านเดียวไว้สำหรับไหว้ผี จะทำให้บ้านมีปัญหาทำมาค้าขายไม่ขึ้น แต่ก็พอจะมีวิธีแก้เคล็ดด้วยการน้ำยันต์แปดทิศหรือเป็นยันต์ ฮก ลก ซิ่ว ที่มีความหมายดีๆ มาติดที่เสาหรือต้นไม้นั้นโดยให้ยันต์หันหน้าเข้าหาตัวบ้าน
3 ไม่ยกเสาในวันที่เป็นกาลกิณีของเจ้าบ้าน ห้ามวันอุบาทว์ วันโลกาวินาศ วันดิถีมหาศูนย์ ในทางโหราศาสตร์ใช้ฤกษ์ภูมิปาโลฤกษ์ อันเป็นฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิโดยเฉพาะ
4 การตั้งศาลทำพิธีตั้งโดยอาจารย์ผู้มีความรู้

การเชิญวิญญาณให้มาคุ้มครองสถานที่นั้นๆ แตกต่างกันออกไป เช่น ศาลพระภูมินา ศาลพระภูมิสวน ศาลพระภูมิบ้าน ศาลพระภูมิร้านค้า (ไม่ควรตั้งสูงจากพื้นดิน คือเสาของศาลต้องปักลงดินเท่านั้นแหละอยู่สูงในระดับสายตาหรือเหนือศีรษะเล็กน้อย)

การเชิญวิญญาณให้มาคุ้มครองและอาศัยอยู่ใน ศาลพระภูมิ ถือว่าเป็นผีที่ถูกต้องตามกฎธรรมชาติ เพราะเจ้าของบ้านเป็นคนอัญเชิญให้เข้ามาอยู่ช่วยปกป้องรักษาห้ามปรามวิญญาณที่ไม่ดีไม่ให้เข้ามารบกวนผู้คนในบ้าน

มีคนตั้งข้อสังเกตว่าพวกฝรั่งไม่เห็นมี ศาลพระภูมิ แล้วทำไมจึงอยู่กันได้ เคยพบบันทึกเก่าแก่ของการตั้ง ศาลพระภูมิ ไทยว่า
ไม่ว่าเคหะสถานใดมักมีวิญญาณคุ้มครอง ถ้าหากบ้านเรือนใดไม่มี ศาลพระภูมิ ประจำบ้าน พวกสัมภเวสี วิญญาณพเนจรจะเข้าไปสิงสู่ หากปล่อยไว้นานๆ เข้า จะเพิ่มจำนวนวิญญาณร่อนเร่ ทำให้ดวงบ้านตกอับทำอะไรก็ไม่เจริญ มีเรื่องหายนะ เรื่องวิบัติเกิดขึ้นมากมาย

ศาลพระภูมิ

2แบบผสมหลักฮวงจุ้ย ยึดทิศ ยึดตำแหน่งบารมี เป็นสำคัญ  (แบบที่2นี้จะละเอียดมาก  เพราะต้องคำนวนวันเดือนปีเกิด ของผู้อยู่อาศัย และปีที่ย้ายเข้ามาอยู่)    
รายละเอียดคลายแบบไทยแต่มีขั้นตอนมากขึ้นแต่ผลที่จะได้รับดีต่างกันมาก
1. เจ้าที่ ต้องอยู่นอกบ้านเฉพาะชั้น 1 เท่านั้น   ตั้งบนดาดฟ้า พระภูมิ ( ดิน ) ไม่มีพลัง กลายเป็นที่อาศัยของวิญญาณอย่างอื่นศาลตายาย เป็นบริวารศาลพระภูมิ  หากตั้ง ตี่จู้ – พระภูมิ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องตั้ง ศาลพระพระภูมิ ศาลตายาย
2.ศาลพระพรหม มาจากฟ้า ตั้งชั้นใดก็ได้ แต่การตั้งค่อนข้างยุ่งยากมากกว่า เพราะท่านมี 4 หน้า  และปกติหน้าทั้ง 4 ไม่ควรถูกบัง จึงเหมาะกับ 4 แยก หรือโรงงานขนาดใหญ่  ไม่เหมาะกับบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
3. ตำแหน่งวาง ศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ศาลตายาย  ดาวบารมีที่ดี เช่นบารมีประจำยุค บารมีหนุน เพื่อเสริมบารมี    ดาวลาภที่ไม่ดี เช่นลาภเสื่อม ลาภวิบัติ เพื่อหยุดการรั่วไหล สูญเสีย
4. ทิศทาง ต้องเป็นองศาที่ดี อย่างน้อยที่สุดต้องไม่เกิดโทษ  เช่น ตั้งทิศทางล้มเหลว ตั้งทิศทางที่ด้านหน้าเป็นลาภวิบัติ
ระบบฮวงจุ้ยไม่ได้จำกัดว่า ศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ จะต้องหันทิศเหนือหรือทิศตะวันออกเท่านั้น
แต่จะขึ้นกับองศาเป็นหลัก หากหันตรงทาง 3 แพร่งหรือ 3 แยก และตำแหน่งนั้นเป็นดาวลาภ จะได้ลาภมาก
5. ชัยภูมิ ห้ามตั้งขวางประตูใหญ่ ห้ามอยู่ใต้ส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคาร   ห้ามหันสวนกับทิศทางบ้าน บริวารจะพูดอย่างทำอย่าง
6. ฤกษ์ยาม การดูฤกษ์  ต้องดูทิศประธานบ้าน หลังบ้านด้วย + ดูทิศด้านหลังศาล + วันเดือนปีเกิดของคนในบ้าน+ปีที่ย้ายเข้าบ้าน   และต้องดูว่าวันที่จะตั้งนั้นด้วย   

หมายเหตุ   ควรตั้ง ศาลพระหรหม ศาลพระภูมิ ศาลตายาย ต่อเมื่อจำเป็น และไม่ควรตั้งหลายจุด เมื่อตั้งแล้วต้องดูแล อย่างน้อยที่สุด วันพระ ควรจัดของไหว้  ย้ายออกแล้วตั้งใหม่ด้วยตนเองได้ แต่มักนิยมให้พราหมณ์หรือผู้รู้ทำ และต้องดูฤกษ์

(ขอบคุณข้อมูลจากwww.pu108.com,www.prapoom.in.th)
(ขอบคุณภาพจาก bloggang.com,market.mthai.com,phram.net)

horolive