หากพูดถึงการ บวชชีพราหมณ์ แม่หมอเชื่อว่าหลายท่านคงนึกถึงวัดหรือสถานปฏิบัติธรรม แต่วันนี้แม่หมออยากมาแนะนำ การบวชชีพราหมณ์สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางไปที่วัด เพราะความจริงแล้ว การที่เรานุ่งขาวห่มขาวนั้น สามารถทำได้ที่บ้าน หากว่าเรามีความตั้งใจจริงและปฏิบัติศีล 8 ได้อย่างเคร่งครัด ก็ถือว่าได้บุญเหมือนกัน
การ บวชชีพราหมณ์ที่วัด ส่วนใหญ่จะมีแม่ชีคอยแนะนำให้อยู่แล้ว ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง และข้อได้เปรียบที่สำคัญคือ บรรยากาศสิ่งแวดล้อมรอบข้างสงบ ทำให้เราสามารถถือศีลได้อย่างสบายใจ แต่หากว่าท่านใดที่มีความต้องการจะ ถือศีล 8 อยู่บ้าน ด้วยเหตุผลต่างๆที่ละเว้นไม่ได้นั้น ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิด สิ่งสำคัญที่ควรจะต้องใช้มากกว่าการบวชชีพราหมณ์ที่วัด คือสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เราต้องมีสติ สมาธิต้องนิ่ง การถือศีล 8 ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากถ้าตั้งใจจริง
การเตรียมตัวสำหรับการ บวชชีพรามหมณ์ ที่บ้านนั้น ไม่ได้แตกต่างจากที่วัดมากนัก ชุดที่ใส่หากไม่มีสีขาวจริงๆก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะความขาวสะอาดที่แท้จริงอยู่ที่ใจเราค่ะ ข้อคิดที่ต้องสวมใส่ชุดสีขาวนั้น เพื่อเป็นการเตือนสติ ให้เราระมัดระวังจากสิ่งต่างๆ ที่จะมาเลอะชุดขาวของเราได้ เพราะสีขาวเปื้อนง่าย นอกจากนี้เป็นเรื่องของการเตรียมใจให้พร้อม เพราะการอยู่บ้านนั้น ไม่เหมือนกับอยู่วัด สิ่งยั่วยุมีมาก ควรงดให้เหมือนกับกำลังปฏิบัติธรรมจริงๆ ความเคร่งครัดในเรื่องนี้จะเป็นการแสดงถึงภาวะจิตใจของคุณได้เป็นอย่างดี ว่ามั่นคงแน่วแน่ หรือว้าวุ่นไม่สงบ
ถึงแม้ว่าอยู่บ้าน แต่ก็ควรจะมีการวางแผนตั้งโปรแกรมการปฏิบัติธรรมให้พร้อม ด้วยการเตรียมพานดอกไม้เครื่องสักการะ ให้เรียบร้อย ซึ่งสิ่งของสำหรับเครื่องสักการะที่จำเป็น เช่น ดอกไม้สด ธูป 3 ดอก เทียนเหลือง 2 เล่ม สำหรับไว้บูชา ถ้าบ้านไหนมีห้องพระ ก็ถือปฏิบัติในห้องนั้นเลยยิ่งดี แล้วตามด้วยการอาราธนาศีล 8
(ถ้าคนเดียวเปลี่ยนจากคำว่า “มะยัง” เป็น “อะหัง” และ “ยาจามะ” เป็น “ยาจามิ”)
มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ (ว่า 3 ครั้ง)
ข้าแต่ ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสมาทานศีล 8 พร้อมด้วยไตรสรณคมน์ เพื่อประโยชน์แห่งการรักษา เป็นข้อ ๆ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า)
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ)
อพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากอสัทธรรม กรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์)
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น)
สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่าง ๆ )
วิกาลโภชนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล)
นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากพูด ฟัง ฟ้อนรำ ขับร้องและประโคมเครื่องดนตรีต่าง ๆ และดูการเล่นที่เป็นข้าศึกแก่กุศล และทัดทรงตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับและดอกไม้ของหอม เครื่องย้อมเครื่องทา)
อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากนั่ง นอน เหนือเตียง ตั่ง มีเท้าสูงเกินประมาณ และที่นั่ง ที่นอนอันสูงใหญ่ ภายในใส่นุ่นและสำลี )
อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (ว่า 3 ครั้ง)
1. เว้นจากทำลายชีวิต
2. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
3. เว้นจากประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือเว้นจากร่วมประเวณี
4. เว้นจากพูดเท็จ
5. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
6. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือเที่ยงแล้วไป
7. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเคลื่องลูบไล้ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง
8. เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่ หรูหราฟุ่มเฟือย
ระหว่างวันนอกจากการสวดมนต์แล้ว การฟังเทศฟังรรม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ควรใส่ไว้ในโปรแกรมการ บวชชีพรารมณ์ ที่บ้าน อาจจะไม่ต้องฟังมากทั้งวันทั้งคืนก็ได้ ขอเพียงแค่เข้าใจ และสามารถนำปรับใช้ได้จริงกับชีวิตจะดีที่สุด สำหรับจำนวนวัน ให้เป็นไปตามที่เราสะดวก อย่าให้ต้องเดือดร้อนตัวเองเป็นพอ เพราะนอกจากจะไม่ได้บุญแล้ว จะเป็นการรบกวนสมาธิระหว่างปฏิบัติธรรมอีกด้วยค่ะ
ภาพประกอบและเรียบเรียงโดย : Horoscope.mthai.com