ฆ่าตัวตาย! วิบากกรรม หรือ หนทางหลุดพ้น ?

การฆ่าตัวตาย หรือ อัตวินิบาต คือการปลิดชีวิตตนเอง มีผลให้ไม่ได้ใช้กรรมที่ควรใช้ก่อนถึงอายุขัย เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สามารถพบเห็นได้อยู่บ่อยครั้งในสังคม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ล้วนแล้วแต่นำมาซึ่งความเสียใจของคนที่รักอย่างแน่นอน

ในทางพุทธศาสนา การเกิดเป็นมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง  เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์ควรที่จะภูมิใจในชีวิต ชีวิตของมนุษย์มีคุณค่ามาก เพราะสามารถใช้ชีวิตในขณะที่อยู่บนโลก ชดใช้กรรม ลดกรรม และสร้างบุญบารมี สะสมความดีไว้ภายหน้า แต่เมื่อเลือกตัดสินใจทิ้งโอกาสที่มี เพื่อหนีทุกข์ใจที่ตัวเองได้เจอมา จึงต้องชดใช้ด้วยการฆ่าตัวตาย ด้วยวิธีการเดิมๆ ในนรกอีกยาวนาน กว่า 500 ครั้ง เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ต้องมาชดใช้กรรม ด้วยการฆ่าตัวตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่จบสิ้น

มีความเชื่อกันว่าเมื่อครั้งคุณมีชีวิตอยู่ คุณต้องเจอกับกับทุกข์และปัญหาแสนสาหัสมากมาย หากว่าคุณรู้สึกเศร้าหมอง ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปจึงหาทางออกด้วยการ ฆ่าตัวตาย เพราะคิดว่าความทุกข์นั้นจะหมดสิ้นไป แต่ความจริงแล้ว คุณจะต้องได้รับความทุกข์ในขณะชดใช้กรรมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่าบนโลกมนุษย์ และเมื่อคุณได้เกิดใหม่อีกครั้ง คุณจะมีอายุมากในอัตภาพที่เป็นทุกข์ แต่จะมีอายุสั้นในอัตภาพที่เป็นสุข สรุปง่าย ๆ คือไม่ว่าอย่างไร คุณก็ไม่มีทางหนีความทุกข์ที่เกิดจากกรรมได้อย่างแน่นอน

“กว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นยากมาก ชีวิตหลังความตายก็ไม่ได้จบสิ้นอย่างที่คิด”

ฆ่าตัวตาย

นอกจากนี้มูลเหตุในอดีตชาติ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ส่งตรงมายังชาติปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น การปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ ยึดทรัพย์จนลูกหนี้ฆ่าตัวตาย พูดอย่างไม่คิดไล่คนอื่นให้ไปตายแล้วเขาเกิดฆ่าตัวตายขึ้นมาจริง ๆ หรือนอกใจจนคู่รักต้องฆ่าตัวตาย และเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้ต้องกลับมาชดใช้กรรมด้วยการฆ่าตัวตายซ้ำซ้อน

การแก้ไขหรือยุติเวรกรรมเรื่องนี้ได้นั้น คือการต้องเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง ที่แวดล้อมไปด้วยกัลยาณมิตรหรือผู้ชี้ทางสว่าง ให้เข้าใจเรื่องวิบากกรรม อบรมและสั่งสอนให้ต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรค มองการฆ่าตัวตายเป็นเรื่องผิดร้ายแรง ไม่ใช่เรื่องดีที่ควรทำ หากผ่านจุดนั้นมาได้ทุกครั้งจนสิ้นอายุขัยอีกครั้ง ก็จะทำให้หลุดพ้นจากกรรมนี้ได้ หรือตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่สอนให้รู้จักทุกข์และการดับทุกข์ ..

อริยสัจ 4
1. ทุกข์  คือการมีอยู่จริงของทุกข์ตามธรรมชาติ คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ความโศกเศร้า ความริษยา และการพลัดพลาก
2. สมุทัย เหตุแห่งทุกข์ มองหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ซึ่งก็คือกิเลสตัณหาต่าง ๆ ที่อยากได้อยากมีไม่จบสิ้นของมนุษย์
3. นิโรธ การดับทุกข์ รับความจริงแล้วแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ว่าในชีวิตจริงไม่สามารถหลีกหนีความทุกข์เหล่านี้ได้ เพื่อนำไปสู่การดับทุกข์
4. มรรค การดับทุกข์ ดับความเศร้า เพื่อให้ชีวิตเกิดความสงบและดำเนินชีวิตได้อย่างเข้าใจโลกมากขึ้น

สุดท้ายนี้แม่หมออยากให้ข้อคิดกับผู้ที่กำลังตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า เครียด วิตกกังวลกับปัญหารอบตัวที่เผชิญอยู่ ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้  หากตั้งสติมองรอบคุณดี ๆ จะพบว่ายังมีคนที่รักคุณ พร้อมให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างคุณเสมอ จงจำไว้ว่าร่างกายไม่ใช่ของคุณ แต่เป็นก้อนเนื้อ เป็นกระดูก เป็นเลือดที่รวมตัวกันของพ่อแม่เพื่อมอบให้คุณได้เกิดมา เพราะฉะนั้นหากคุณตัดช่องน้อยแต่พอตัว คิดลาโลกนี้ไปเพื่อหนีความทุกข์ คนที่เจ็บปวด ทุกข์แสนสาหัสกว่าคุณนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่คือพ่อแม่คุณของนั่นเอง !!

…………………………………………………………………………………………………..

รูปประกอบและเรียบเรียงโดย : Horoscope.Mthai.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040