ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่ายุคนี้ไม่ใช่การมาแต่งหน้าแข่งกันสวยอีกต่อไป แต่มันเป็นยุคของการหันกลับมาดูแลตัวเองที่แท้ทรู ก็แหม...ผู้หญิงอย่างเราๆ นอกจากจะอยากมีหุ่นเพรียวๆ สวยๆ แล้ว ก็อยากมีสุขภาพที่ดีเหมือนกันนจ๊ะ แต่เห็นทีว่าการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวจะเห็นผลช้า มันเลยจะต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมและรู้จักเลือกทานอาหารด้วย วันนี้เราเลยมี เมนูลดน้ำหนัก มาแจกให้สาวๆ ได้ชมกันว่า ที่เราทนเข้าไปเนี่ย มันกี่แคลอรี่? 20 เมนูลดน้ำหนัก แคลอรี่น้อย ซุปไก่ 120 แคลอรี่ต้มยำกุ้งน้ำใส 90 แคลอรี่ แกงส้มผักรวม 100 แคลอรี่กระเพาะปลา 250 แคลอรี่ซุปมิโซะ 50 แคลอรี่ส้มตำปู 35 แคลอรี่แกงจืดเต้าหู้หมูสับ 120 แคลอรี่ต้มจับฉ่าย 90 แคลอรี่แกงจืดมะระยัดไส้ 90 แคลอรี่ต้มเลือดหมู 120 แคลอรี่แกงจืดตำลึงหมูสับ 90 แคลอรี่โจ๊กหมู 160 แคลอรี่ (หากใส่ไข่จะเป็น 250 แคลอรี่)ซุปหน่อไม้ 90 แคลอรี่แกงเหลือง 80 แคลอรี่ส้มตำไทย 60 แคลอรี่เส้นหมี่น้ำใส 200 แคลอรี่ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก 180 แคลอรี่แกงเห็ดรวม 90 แคลอรี่ยำวุ้นเส้น 120 แคลอรี่น้ำพริกผักต้ม 70 แคลอรี่ 20 เมนูอาหารลดน้ำหนัก แคลอรี่ต่ำ กินมื้อเย็น ก็ผอมได้!! ซุปไก่ 120 แคลอรี่ ต้มยำกุ้งน้ำใส 90 แคลอรี่ แกงส้มผักรวม 100 แคลอรี่ กระเพาะปลา 250 แคลอรี่ ซุปมิโซะ 50 แคลอรี่ ส้มตำปู 35 แคลอรี่ แกงจืดเต้าหู้หมูสับ 120 แคลอรี่ ต้มจับฉ่าย 90 แคลอรี่ แกงจืดมะระยัดไส้ 90 แคลอรี่ ต้มเลือดหมู 120 แคลอรี่ แกงจืดตำลึงหมูสับ 90 แคลอรี่ โจ๊กหมู 160 แคลอรี่ (หากใส่ไข่จะเป็น 250 แคลอรี่) ซุปหน่อไม้ 90 แคลอรี่ แกงเหลือง 80 แคลอรี่ ส้มตำไทย 60 แคลอรี่ เส้นหมี่น้ำใส 200 แคลอรี่ ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก 180 แคลอรี่ แกงเห็ดรวม 90 แคลอรี่ ยำวุ้นเส้น 120 แคลอรี่ น้ำพริกผักต้ม 70 แคลอรี่ ทั้งนี้สาวๆ จะต้องเลือกทานให้หลากหลาย รวมถึงออกกำลังกาย เผาผลาญแคลอรี่ไปด้วย ถึงจะได้ผลที่ดีนะจ๊ะ อย่าลืมว่า สุขภาพดี อะไรก็ดีตามไปด้วย เรียบเรียงโดย Women Mthai Team

ศาสตร์ฮวงจุ้ยใช้ได้กับทุกอย่างในบ้าน นอกจาก ฮวงจุ้ยที่ตั้งของบ้านแล้ว ก็มีฮวงจุ้ยบันไดที่ดี ที่ส่งเสริมให้สถานที่นั้นๆ มีแต่เรื่องดีๆ รวยๆ เฮงๆ มาวันนี้ อ.คฑา ชินบัญชร จะมาแนะนำวิธีนับ ลูกตั้งบันได  ฮวงจุ้ยของความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเรือน ตึกราม ร้านค้า ว่าแต่ว่าจะมีวิธีนับกันอย่างไรบ้างตามมาชมกันค่ะ สนใจดูดวงผ่านแอพพลิเคชั่น Neptune  ดาวน์โหลดเลย 

ผึ้ง มีหลายชนิดทั้ง ผึ้งเลี้ยง, ผึ้งโพรง, ผึ้งมิ้ม และผึ้งหลวง ผึ้งสามารถทำอันตรายคนได้โดยใช้เหล็กในแทงทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ซึ่งเหล็กในจะอยู่ที่ก้นของผึ้ง อาการจะมีตั้งแต่เจ็บปวดเพียงเล็กน้อยจนถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้นการดูแลตนเองเบื้องต้นเมื่อถูกผึ้งต่อยจึงเป็นสิ่งสำคัญ อาการเมื่อโดน ผึ้งต่อย ผิวมักจะบวมแดง รู้สึกแสบร้อน เจ็บปวดอย่างรุนแรง มีผื่นคันรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน เป็นลม ช็อค หมดสติ ชีพจรเต้นเร็วแต่เบามาก ริมฝีปากบวม ซีด บางรายที่แพ้พิษผึ้งอาจทำให้หายใจไม่ออก หายใจติดขัด และเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ผึ้ง การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อถูกผึ้งต่อย ควรรีบดึงเอาเหล็กในออกให้เร็วที่สุด จะช่วยลดปริมาณพิษลงได้ โดยใช้แหนบหรือใช้สก็อตเทปปิดบริเวณที่ถูกต่อยแล้วดึงออก ถอดเครื่องประดับออก เพราะเมื่อเกิดอาการบวมอาจยากที่จะถอดในภายหลัง ไม่ควรบีบหรือขยี้บริเวณที่ถูกผึ้งต่อย เพราะจะทำให้พิษกระจายมากยิ่งขึ้น ล้างทำความสะอาดแผลด้วยสบู่ ประคบเย็นบริเวณที่ถูกผึ้งต่อย โดยใช้น้ำแข็งประคบครั้งละประมาณ 10 นาที หรือทาแอมโมเนีย จะช่วยลดอาการบวมและบรรเทาความเจ็บปวดลงได้ ถ้ามีอาการปวดมากให้กินยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล (paracetamol) หากมีอาการปวดมากขึ้นเรื่อยๆ บวม แดง คัน ไม่ยุบภายใน 6ชั่วโมง ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด