นิสัยกินแหลก กินไม่หยุด กินเกินความต้องการ (Binge eating disorder) เพื่อทดแทนอารมณ์ต่างๆ อย่างเหงา หงุดหงิด เบื่อ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราอ้วนง่าย ยิ่งถ้าเกิดขึ้นช่วงกลางคืนด้วยแล้วล่ะก็!! อ้วนเพิ่มขึ้นเท่าตัวแน่นอน!! แบบนี้ต้องจัดการให้หายขาด!!! STEP 1 สังเกตซิ เริ่มกินไม่หยุดตอนไหนนะ? เริ่มแรกต้องรู้ก่อนว่าเรามีอาการกินไม่หยุดตอนไหน ตอนอยู่บ้านคนเดียวหรือหลังจากทำงาน แต่ต้องคอยสังเกตตัวเองอยู่ตลอดนะ เพราะมันอาจจะเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาผ่านไป อาจจะเพราะสุขภาพของเราและปัญหาทางจิตที่ลิงก์อารมณ์บางอย่างเวลาอยู่ในสภาพแวดล้อมบางที่กับการกินอาหารบางชนิด ไม่แปลกใจที่ทำไมคนอกหักบางคนถึงอ้วนขึ้น STEP 2 แล้วทำไมถึงกินไม่หยุดล่ะ? การทำความเข้าใจกับตัวเองว่าทำไม่ถึงกินไม่หยุด อาจจะเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับบางคน แต่รู้ไหม? ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากเรื่องอารมณ์ทั้งนั้น อย่างเวลาความต้องการไม่ถูกตอบสนองก็เลยหันไปพึ่งอาหารแทน กินเข้าไปทดแทนความรู้สึกที่พยายามหลีกเลี่ยง เช่น เศร้า เหงา หรือโกรธ อารมณ์นี่แหละสาเหตุหลักเลย STEP 3 กำจัดสิ่งดึงดูดใจ ถึงเวลาแก้นิสัยของตัวเองแล้ว หยุดซื้อของอ้วนๆ มาเก็บในตู้เย็นสักที เลิกกินของหวานๆ มันๆ แล้วไปเข้ายิมกันเถอะ หาอะไรทำในช่วงเวลาสุ่มเสี่ยงแทน ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองตามสาเหตุการกินไม่หยุดของคุณ STEP 4 สร้างกฎให้ตัวเอง การเปลี่ยนแปลงแบบระยะยาวต้องอาศัยการตั้งกฎที่เคลียร์ อาจจะเป็นการอนุญาตให้ตัวเองกินอาหารตอนกลางคืน แต่ต้องจำกัดปริมาณและต้องเป็นอาหารที่ไม่อ้วนเกินไป หรือจะเป็นสายโหดห้ามตัวเองไม่ให้กินหลังจากข้าวเย็นไปเลย! ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ขอให้ตั้งกฎที่เหมาะกับลักษณะนิสัยส่วนตัว ช่วงแรกๆ อาจจะทำได้ยากหน่อย แต่ถ้าผ่านไปได้ 3-4 วันจะเริ่มอยู่ตัวแล้วล่ะ คลิป > เคยอ้วนเพราะกินเก่งมาก่อน! ฝ้าย เวฬุรีย์ บอก ต้องมีสติ และออกกำลังกาย https://seeme.me/ch/women/k5Y6Dk เรียบเรียงโดย Women Mthai Team

เชื่อว่า ปี่เซียะ มีรูปร่างและเขาคล้ายกวาง แต่มีหน้า, หัว, ขาคล้ายสิงโต, มีปีกคล้ายนก, หลังคล้ายปลา และมีส่วนหางคล้ายแมวปนไปด้วย ท้องและบางส่วนของหัวคล้ายมังกร เป็นสัตว์สี่ขา และเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ช่วยป้องกันและปัดเป่าภยันตรายและภูตผีปีศาจ สิ่งไม่ดีต่าง ๆ ได้ เชื่อว่าถูกแบ่งเป็นตัวผู้ชื่อ ปี่ และ ตัวเมียชื่อ เซียะ ปัจจุบัน มีการบูชาปี่เซียะ โดยมักทำเป็นรูปเคารพของสัตว์ที่มีลักษณะดังกล่าวในลักษณะหมอบ และมักทำเป็นคู่กัน โดยจะตั้งวางให้สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยด้วย อีกทั้งยังเป็นที่บูชาของนักพนัน ผู้ที่นิยมเสี่ยงโชคในลักษณะวัตถุมงคล จากการที่เป็นสัตว์ที่กินอย่างเดียวไม่มีถ่ายจึงเป็นสัญลักษณ์ของการเก็บทรัพย์ ซึ่งกาสิโนบางแห่งในประเทศจีน มาเก๊าและฮ่องกง จะมีรูปปั้นปี่เซียะนี้อยู่ด้านหน้าด้วย และในคลิปนี้คุณริว จะมาแนะนำการเลือกสีปี่เซียะให้เหมาะกับผู้รับ หากจะมอบให้ผู้อื่นเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ ว่าควรเลือกอย่างไร ความหมาย 5 สีของปี่เซียะที่ควรมอบให้แก่ผู้อื่น 1.สีเขียว เขียวอ่อน : เด็กผู้ชาย อายุไม่เกิน 21 ปี , เขียวเข้ม : ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่สูงอายุ 2.สีชมพู : ผู้หญิง หรือ เด็กอ่อน 3.สีขาว, ครีม, ทอง : เรื่องที่อยู่อาศัย 4.สีทองเหลือง : กิจการ,การค้า 5.สีดำ : บ้านที่อยู่ทางสามแพร่ง,ฮวงจุ้ยไม่ดี และคนที่ชอบสวดมนต์

โยคะเป็นทั้งการออกกำลังกาย การฝึกกำหนดลมหายใจ และยังช่วยฝึกสมาธิได้อีกด้วย จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัยแม้แต่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ โยคะสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกายอีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดตามส่วนต่างๆของร่างกาย และนี่คือ 10 ท่าโยคะเพื่อสุขภาพ ช่วยยืดกล้ามเนื้อทำให้รูปร่างดีอีกด้วย ท่าเรือ Boat Pose ประโยชน์ : ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง ต้นขา และหลังให้แข็งแรง เริ่มจากนั่งชันเข่า ยกปลายเท้าขึ้น จากนั้นค่อยๆเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยทำมุม 45 องศา โดยยกแขนทั้งสองข้างให้ขนานกับพื้น ทำค้างไว้ประมาณ 15 วินาที ท่าสุนัขก้มหน้า Downward Facing Dog ประโยชน์ : ท่านี้ช่วยลดอาการปวดหลัง ช่วยยืดสะโพก กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ไปจนถึงข้อเท้า เริ่มจากนอนคว่ำแล้วค่อยยกสะโพกขึ้น แขนเหยียดตรง พยายามกดส้นเท้าลงกับพื้นเกร็งต้นขาไว้ แล้วทำค้างไว้ 10 วินาที แล้วค่อยๆผ่อนคลายลำตัวลดลงมาและทำซ้ำอีกครั้ง ท่าสะพาน Bridge Pose ประโยชน์ : เป็นท่าที่ช่วยลดอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี แล้วยังช่วยผ่อนคลายไปจนถึงบั้นเอว เป็นการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อแผ่นหลังที่เมื่อยล้าจากการทำงานท่าเดิมเป็นเวลานานๆ เริ่มจากนอนหงายชันเข่าทั้ง 2 ข้างขึ้น ยกเอวและสะโพกขึ้น พยายามให้มือจับที่ส้นเท้าแต่ถ้าไม่ไหวให้วางแขนแนบกับพื้น ค้างไว้ 10 วินาที ท่าก้มแตะปลายเท้า Forward Fold ประโยชน์ : ท่านี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังและช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขาแข็งแรง เพียงแค่ค่อยๆโน้มก้มตัวลงมาด้านหน้า ยืดขาให้ตึง พยายามให้ลำตัวแนบกับต้นขามากที่สุด หากสามารถยืดตัวได้มากๆ ให้ใช้มือจับไว้ที่ด้านหลังข้อเท้า ค้างไว้สักครู่แล้วกลับสู่ในท่ายืนตรง ท่านักรบ Warrior 1 ประโยชน์ : ช่วยยืดหยุ่นกล้ามเนื้อหลัง ลดอาการตึงปวดบริเวณหลัง ไหล่ คอ เอว เข่า และยังลดไขมันบริเวณสะโพกอีกด้วย เริ่มจากกางขาให้ขาด้านหนึ่งย่อทำมุม 90 องศา โดยที่หัวเข่าห้ามเลยปลายเท้า จากนั้นยกแขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะพยายามให้แขนแนบใบหู ทำท่านี้ค้างไว้ประมาณ 20-30 วินาที จากนั้นทำสลับขา ท่าเก้าอี้ Chair Pose ประโยชน์ : ท่านี้ช่วยกล้ามเนื้อต้นขา น่อง ข้อเท้า ไหล่ และข้อเท้าให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นอวัยวะในช่องท้อง เริ่มจากย่อขาลงเล็กน้อยแล้ว ค่อยๆพนมมือขึ้นพยายามให้แขนแนบใบหูไว้ ยืดอดเหยียดลำตัวให้ตรง ทำท่าคล้ายกับการนั่งเก้าอี้ ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที ท่าธนู Bow Pose ประโยชน์ : ท่านี้จะช่วยให้กระดูกสันหลัง หัวไหล่ และเอวแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยนวดอวัยวะภายในช่องท้อง เริ่มจากนอนคว่ำราบกับพื้น กางขาออกสักเล็กน้อยแล้วพับขาทั้งสองขึ้นมา แล้วใช้มือจับข้อเท้าทั้งสองข้าง หายใจเข้าออกแรงดึงข้อเท้าแล้วค่อยๆแอ่นตัวขึ้นมาเกร็งค้างไว้ ประมาณ 10 วินาที แล้วผ่อนลงทำซ้ำอีก 5 ครั้ง ท่างู Cobra Pose ประโยชน์ : เป็นท่าบริหารที่ช่วยให้กล้ามเนื้อหลังและกระดูกสันหลังแข็งแรง ทำให้โลหิตไหลเวียน อีกทั้งยังช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารได้อีกด้วย เริ่มจากคุกเข่า แขนเหยียดตรง ยกกระดูกก้นกบ เกร็งหน้าท้อง โก่งหลังขึ้นให้ได้มากที่สุด แล้วก้มหัวลงพยายามกดคางให้ชิดหน้าอก ท่าพระจันทร์เสี้ยว Crescent Lunge ประโยชน์ : เป็นท่าที่ช่วยยืดเส้นที่ขาและช่วยสร้างแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อขา เริ่มจากก้าวขาซ้ายไปยาวๆ ควรระวังให้เท้าอยู่ในระดับเดียวกันกับมือ เหนือเข่าวางพื้น ปลายเท้าแนบพื้น จากนั้นยกลำตัวขึ้นดันเขาไปด้านหน้า เปิดสะบัก แอ่นหน้าอก เงยหน้าขึ้น พยายามให้มือแตะถึงพื้น แล้วทำสลับข้าง ท่าต้นไม้ Tree Pose ประโยชน์ : ท่านี้ช่วยทำให้กล้ามเนื้อต้นขา น่อง ข้อเท้าแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างสมดุลให้ร่างกาย ในขณะที่ยืนให้งอเข่าข้างหนึ่งขึ้นแล้วยกขึ้นมาวางชิดกับต้นขาอีกข้าง แล้วพยายามทรงตัวด้วยเท้าอีกข้างหนึ่ง จากนั้นพนมมือไว้เหนือศีรษะ ค้างไว้ประมาณ 10-20 วินาที แล้วให้สลับขาทำซ้ำอีก 5 ครั้ง